เสื้อผ้าทั้งสามชุดที่นำเสนอในงานได้รับการออกแบบเพื่อสะท้อนการเดินทางของผู้อพยพตั้งแต่วิถีชีวิตเร่ร่อนในยุคแรกสุด เพื่อความยืดหยุ่นและความสามารถในการสร้างใหม่และปรับตัว และการมีส่วนร่วมผ่านการบูรณาการทางสังคมและวัฒนธรรมที่จุดหมายปลายทางเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่แบรนด์ No Nation Fashion ไปถึงนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะ แฟชั่น รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม” ลอรา ลุงการอตตี หัวหน้าภารกิจ IOM
ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนากล่าว “สิ่งนี้เตือนเราว่าการย้ายถิ่นและการรวมความหลากหลาย
สามารถสร้างความสวยงามและโอกาสสำหรับทุกคน”พันธกิจของ No Nation Fashion คือการสร้างแบรนด์และกิจการเพื่อสังคมที่ส่งเสริมการรวมผู้ย้ายถิ่นฐานในชุมชนโฮสต์ และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการทำให้สังคมมีความยืดหยุ่น ครอบคลุม และยั่งยืนมากขึ้น
หลังจากประสบความสำเร็จในนิวยอร์ก ความคิดริเริ่มจะยังคงสนับสนุนผู้อพยพในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โดยมีผู้มีความสามารถจากส่วนต่างๆ ของโลกแบ่งปันความรู้ ทักษะ และวัฒนธรรมเพื่อสร้างงานศิลปะที่สวมใส่ไดข้อมูลจาก 22 ประเทศทั่วภูมิภาคแสดงให้เห็นว่าเด็ก ๆ กำลังแบกรับภาระหนักที่สุดของวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ในขณะที่พวกเขาคิดเป็นเพียงร้อยละ 25 ของประชากร แต่พวกเขาคิดเป็นเกือบร้อยละ 40 ของผู้ที่ถูกบังคับให้ยากจนเพิ่มเติมอีก 10.4 ล้านคนในปีนี้
เด็ก ๆ ทั่วภูมิภาคกำลังจมอยู่ในเหตุการณ์เลวร้ายของสงครามครั้งนี้
อัฟชาน ข่าน ผู้อำนวย การยูนิเซฟประจำภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง กล่าวหยั่งรากในสงครามจุดประกายจากสงครามยูเครนและวิกฤตค่าครองชีพทั่วภูมิภาค รัสเซียคิดเป็นเกือบสามในสี่ของ ความยากจนในเด็กที่เพิ่มขึ้น โดยอีก 2.8 ล้านคนอาศัยอยู่ในครัวเรือนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจน
ยูเครนเป็นบ้านของเด็กอีกกว่าครึ่งล้านที่อาศัยอยู่ในความยากจนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสอง รองลงมาคือโรมาเนีย ซึ่งมีเด็กเพิ่มขึ้นถึง 110,000 คน
“นอกเหนือจากความน่าสะพรึงกลัวของสงครามที่เห็นได้ชัด – การฆ่าและการตัดแขนขาเด็ก การพลัดถิ่นจำนวนมาก – ผลทางเศรษฐกิจของสงครามในยูเครนยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเด็ก ๆ ทั่วยุโรปตะวันออกและเอเชียกลาง” นางข่านกล่าว ผลที่ตามมาจาก ความยากจนในเด็กนั้นขยายวง กว้างออกไปไกลเกินกว่าครอบครัวที่มีความทุกข์ยากทางการเงิน